วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

30 ขั้นตอน รับวิกฤติน้ำท่วมกรุง

30 ขั้นตอน รับวิกฤติน้ำท่วมกรุง
by PrinceBerry

            ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน การไม่พูดถึงเรื่องน้ำท่วมก็ดูจะเป็นการ เสียมารยาท ต่อ น้องน้ำ ที่อุตส่าห์ไหลบ่าข้ามจังหวัด เข้ามาหา พี่กรุงเกินไปสักหน่อย
            ความพยายามของนางสูงมาก ถึงขนาดเข้ามหาลัยพร้อมกันหลายๆ แห่ง เพื่อหาความรู้นะฮะ
            ความน่ากลัวของน้องน้ำ ทำให้คนกรุงตื่นเต้น ไม่สิ ควรจะใช้คำว่า ตื่นตระหนก ตกใจ(เวอร์) น้ำยังไม่ถึงตัว ก็รีบกว้านซื้อสินค้าไปกักตุนเพื่อบริโภคกันเสียเต็มเหนี่ยว !!
            คงจะลืมไปว่า ถ้าเค้าตัดน้ำ ตัดไฟ จะไม่มีไฟฟ้าใช้ต้มมาม่า ส้วมตันจนขับถ่ายไม่ได้
แต่การคืบคลานเข้าใกล้ และบุกรุกของน้องน้ำนี่เองที่ทำให้คนกรุง หันมาติดตามข่าวสารมากขึ้น (จากสองบรรทัดต่อคนต่อปี) เพื่อหนีภัยน้ำท่วมที่กำลังใกล้เข้ามา
            ไม่ว่าจะเปิดไปโซเชียลเน็ทเวิร์คตัวไหนๆ ก็จะได้เห็นเรื่องน้ำท่วมจนชินตา ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ บลาๆๆๆ ที่ประชาชนต่างก็ทำหน้าที่ของ นักข่าวพลเมือง ได้อย่างดีเยี่ยมจนหน้าปรบมือให้ !!
            ก็มีทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวปั้น ข่าวมั่วซั่วกันไป อัปเดทกันแบบวินาทีต่อวินาที ระดับน้ำขึ้นแบบเซนติเมตรต่อเซนติเมตร พร้อมรูปประกอบ ข้อมูลดิบอย่างหนาแน่น ก็อยู่ที่วิจาณญานในการแยกแยะของผู้รับสื่อนะครับ
            สถานการณ์น้ำท่วมในปี 54 นี้ เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นรุนแรงเลยทีเดียว นับจากตัวผู้เขียนเองก็ย้ายถิ่นที่อยู่มาถึง 4 ที่แล้วด้วยกัน (บางบัวทอง > ลาดปลาดุก > บางพลัด > เคหะ ท่าทราย) ไปที่ไหน น้ำก็ตามมาท่วมทุกที่ ยัดเยียดตำแหน่ง ผู้ประสบภัย ให้กัน ทั้งที่ไม่อยากจะได้เลยสักนิดเดียว
            เป็นน้ำท่วมที่หนักหนาเหนือจากความคาดการณ์ของใครหลายๆ คน (แม้แต่ตัวผมเอง) ที่ไม่คาดคิดว่า น้ำจะท่วม เยอะท่วม มาก ท่วม วงกว้าง และ ท่วม นาน ขนาดนี้ !! ในฐานะของผู้ประสบภัยน้ำท่วม อยากจะให้คำแนะนำเบาๆ แก่คนอื่นๆที่น้ำ กำลังจะ ท่วมบ้าน เพื่อหาวิธีรับมือแบบ ชั่วคราว
1.      สิ่งแรกที่คุณควรจะทำ เมื่อได้ยินข่าวน้ำท่วม คือ ออกไปดูครับ ออกไปดูให้เห็นกับตา ว่าไอ้ที่ เค้าว่ากันว่า น้ำท่วมเนี่ย มันมารึยัง มันโผล่มาให้เห็นตามตรอก ซอก ซอย ถนนแล้วหรือไม่
2.      ถ้าคิดจะ ตรึงกำลัง ต่อสู้กับมวลน้องน้ำ ให้หา น้องทราย พี่อิฐ พี่ปูน มาเป็นพวก แต่ขอเตือนไว้อย่างว่า น้องน้ำเธอมีพลังมากมายเหลือเฟือ คุณจะทำได้แค่ ชะลอการเพิ่มระดับของน้ำ ไม่สามารถทำให้บ้านคุณแห้งเป็นแอ่งไข่ดาวได้ ถ้าไม่มีตังค์
3.      และอย่าคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะป้องกันน้ำไว้ได้ถาวร
4.      ถ้าเงินเหลือใช้นัก ก็ซื้อเครื่องสูบน้ำไว้สักเครื่อง เพราะลำพังแค่ ทราย อิฐ ปูน น้ำสามารถซึมผ่านเข้ามาได้ (ให้รูเล็กแค่ไหน นางก็เข้ามาได้) สูบน้ำออกจากบ้านทั้งวันทั้งคืนไปเลย รอจ่ายค่าน้ำมันกระเป๋าฉีก เพราะน้ำมันหายากเหลือหลาย
5.      จากข้อ 4 น้ำที่คุณสูบออกไป จะไปท่วมบ้านของเพื่อนบ้าน หลังน้ำลด ระวังโดนเกลียดขี้หน้าแบบลับๆ
6.      น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ไม่ได้ท่วมเหมือนในหนัง 2012 หรือ The day after tomorrow ที่เราเคยดู มันไม่ทะลักมาขนาดนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆ คือน้ำจะค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นช้าๆ ตอนเย็นเห็นแค่ตาตุ่ม อย่าวางใจ เช้ามา มันอาจถึงหน้าอกได้ (เหมือนบ้านของผม) วิธีเช็คง่ายๆ ว่าระดับน้ำทรงตัว หรือไหลออกไปหรือไป (ในกรณีที่น้ำใสพอสมควร) ให้เอาเชือกฟางบางๆ ผูกไว้ที่ปากท่อ ดูว่ากระแสน้ำยังไหลออกมาจากท่อหรือไม่ หรือออาจทำเรือโฟมเล็กๆ ปล่อยให้ลอยตามกระแสน้ำ เพื่อดูว่าน้ำพัดไปทางไป ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ไหลจากในหมู่บ้านออกถนน ก็ไหลจากถนน เข้ามาในหมู่บ้านนั่นเอง
7.      และควรทำกระสอบทรายสองชั้น ชั้นแรกกันน้ำเข้าในบ้าน ชั้นที่สองป้องกันแรงกระแทกที่เกิดจากคลื่นน้ำที่รถวิ่ง เรือแล่น เพราะมันสามารถทำให้กระจก 7-11 แตก ชัตเตอร์บานเลื่อนพัง หรือมอเตอร์ไซค์คว่ำ นอนแอ้งแม้งในน้ำ (เจอมากับตัว TT^TT)
8.      ถ้าทำได้ รีบอพยพ ย้ายไปต่างจังหวัด ย้ายข้าวของที่มีราคาแพง ออกไปเท่าที่ทำได้ เช่น ทอง เพชร ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าเอาไปไม่ได้ก็ช่างมัน เดี๋ยวมันก็มีโปรลดราคาแน่นอน
9.      ถ้าไม่อพยพ ควรมีอาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูปติดบ้านไว้ อย่ารอการช่วยเหลือจากถุงยังชีพ ถ้าคุณรอ คุณอาจอดตายโดยไม่มีใครเหลียวแล 55+
10.  และอย่าโง่ใช้เตาไฟฟ้า กรุณาใช้เตาแก๊ส หากกลัวระเบิด ก็ใช้เตาถ่าน หากกลัวไฟไหม้ แนะนำให้กลับสู่ยุคหิน ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทำกับข้าว
11.  จากข้อ 10 คุณทำได้มากที่สุดก็แค่ต้มมาม่ากับหุงข้าว แกคิดว่าจะมีของสดให้แกเอามาปรุงอาหารหรือไง ?
12.  หาหยูก ยา เน้นที่ฆ่าเชื้อโรค ท้องเสีย แก้แพ้ แก้น้ำกัดเท้า คาลามายด์แก้คัน เชื่อเถอะ ไม่มีใครที่จะอยู่จนพ้นผ่านน้ำท่วมไปได้โดยไม่ป่วย
13.  จงทำใจว่า บรรยากาศในการอาบน้ำของคุณจะเปลี่ยนไป อาจจะได้เล่นน้ำคลองสนุกสนาน หรืออาจจะได้อาบน้ำกลางแจ้งบนหลังคา
14.  และสุขา ก็จะเปลี่ยนเป็น ทุกขเวทนา ทันที ใช้ส้วมที มันก็ตัน ต้องใช้ส้วมชั่วคราว ทำธุระใส่ถุงดำ
15.  ทำธุระเสร็จ ก็นำน้ำ EM ใส่ลงไป อย่าใจร้อน เขวี้ยงไปให้ไกลตา หลังน้ำลด มันจะกลับมาหาคุณ!!
16.  ทำใจเผื่อไปอีกขั้น ว่าน้ำสะอาดจะไม่มีใช้บริโภค แต่ยังพออุปโภคได้
17.  อย่าลืมสับคัทเอาท์ภายในบ้าน ตัดเฉพาะส่วนที่เป็นชั้นล่างทั้งหมด ใครไม่รู้ว่าตัวไหนชั้นล่าง อนุโลมให้ตัดไฟทั้งบ้านได้ ทนร้อนเอาหน่อย อยากโง่เอง 55+
18.  หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ปลั๊กไฟ แม้แรงดันไฟฟ้าในบ้านจะเพียงแค่ 220 โวลท์ มันก็ทำให้ตายได้
19.  จากข้อ 18 ระยะที่ไฟฟ้านำไฟฟ้าในน้ำก็ไม่เท่ากัน กรุณาอย่าระแวงเกินเหตุ ไม่เกิน 3 5 เมตรหรอก !!
20.  ยกเว้นกรณีไฟฟ้าแรงสูงตามเสาไฟฟ้า กรุณาอย่าโง่ไปยืนใกล้เชียว !!
21.  หากคุณมีสัตว์เลี้ยง ให้นึกถึงวันแรกที่คุณพาเค้าเข้าบ้าน ไม่ว่าคุณจะลำบากขนาดไหน ก็ห้าม ทิ้ง โดยเด็ดขาด อย่ามักง่าย เลี้ยงไม่ได้ ดูแลไม่ได้ รับผิดชอบชีวิตสัตว์เลี้ยงไม่ได้ ก็อย่ามีครอบครัว อย่ามีลูกเด็ดขาด
22.  แนะนำให้นอนด้วยกัน แล้วคุณจะเห็นความน่ารักของสัตว์เลี้ยงในมุมที่คุณก็ไม่เคยเห็น คุณอาจได้เห็นสัตว์เลี้ยงโตเป็นสาว (ประจำเดือนมา) แบบต่อหน้าต่อตา ทั้งที่เลี้ยงมาหลายสิบตัว ไม่เคยได้เห็นเลย
23.  หลังน้ำลดอย่าลืมพาไปหาหมอ ตรวจ ทำวัคซีน ฉีดยาซะ
24.  หากจะออกจากบ้าน แนะนำให้หาเรือไว้สักลำ จะเป็นต้นมะพร้าวที่ตายแล้ว กะบะผสมปูน แผ่นโฟมสำหรับทำงานฝีมือ อะไรก็ได้ที่ลอยได้ และขนของได้
25.  ขณะที่คนก็ควรจะหาอะไรห่อขา หรือเอว กรณีนี้บูทหรือถุงดำช่วยได้
26.  จากข้อ 25 แต่อย่าโง่ใส่รองเท้าบูท ในที่ที่ระดับน้ำสูงกว่ารองเท้า ... คือ มึงจะใส่ทำเพื่อ ??
27.  บางทีครีมกันแดดก็สำคัญ แค่คุณอาจจากบ้านสามวัน หน้าคุณอาจดำเหมือนตากแดดมาสามเดือน !!
28.   สิ่งเดียวที่จะวิ่งบนน้ำท่วมคือรถโดยสารของทหาร ใช้ความหน้าด้าน ถามเข้าว่าไปที่ไหนบ้าง และคุณพอจะลงที่ไหนได้บ้างจะช่วยให้คุณสะดวกขึ้น
29.  กรุณาอย่างเหวี่ยงทหาร ถ้าไม่ได้ดังใจ หรือรถไม่ไปทางที่คุณต้องการ ยังจะต้องการอะไร เค้ามาช่วยรับส่งก็ดีเท่าไรแล้วยะ
30.  อย่าลืมมีน้ำใจไมตรี ต่อผู้ประสบภัยด้วยกัน อย่าลืมว่าทุกคนต่างก็เจอภัยเช่นเดียวกัน อยู่ที่ว่า ใครท่วมมาก ใครท่วมน้อย แบ่งปันกันไป จะทำให้คุณผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างมีความสุขครับ